ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้เทคนิคใหม่สำหรับการทำเหมืองกระบวนการ

Process Mining คืออะไร

การทำเหมืองกระบวนการเป็นเทคนิคที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจหา ตรวจสอบ และปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ โดยการแยกความรู้ที่พร้อมใช้ออกจากระบบสารสนเทศ

เป็นกระบวนการที่แยกข้อมูลจากบันทึกเหตุการณ์และบันทึกการตรวจสอบบัญชีจากระบบข้อมูลทั้งหมดในองค์กรของคุณ เช่น การวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) หรือระบบการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) เพื่อแสดงภาพที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในธุรกิจของคุณ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง การทำเหมืองกระบวนการเกือบจะเหมือนกับการเอ็กซ์เรย์กระบวนการทางธุรกิจของคุณ เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนที่สุดว่ากระบวนการทางธุรกิจของคุณทำงานได้ดีเพียงใด และกระบวนการใดบ้างที่ต้องปรับปรุง เช่น ปัญหาที่เป็นจุดติดขัดหรือส่วนอื่น ๆ ของธุรกิจคุณที่อาจก่อให้เกิดความล่าช้า

นอกจากนี้ การทำเหมืองกระบวนการยังช่วยให้ผู้จัดการมีแนวทางที่ชัดเจนและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อช่วยแก้ปัญหาและชี้นำการตัดสินใจที่อิงจากข้อมูลตามเวลาจริง

การทำเหมืองกระบวนการกับการทำเหมืองข้อมูลและการจัดการกระบวนการทางธุรกิจ: แตกต่างกันอย่างไร

เนื่องจากผู้คนมักจะสับสนระหว่างการทำเหมืองกระบวนการกับการทำเหมืองข้อมูลและการจัดการกระบวนการทางธุรกิจ (BPM) การทราบความแตกต่างระหว่างทั้งสามอย่างนี้จะช่วยได้อย่างมาก

เพื่อความชัดเจน เรามาเริ่มต้นที่การทำเหมืองข้อมูล

การทำเหมืองข้อมูลเป็นคำที่ค่อนข้างกว้างและเกี่ยวข้องกับแนวทางปฏิบัติของวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมาก ๆ เพื่อค้นหารูปแบบ ค้นพบแนวโน้ม และจัดทำข้อมูลเชิงลึกสำหรับการใช้งานในอนาคต ในทางกลับกัน การทำเหมืองกระบวนการเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการทำเหมืองข้อมูลที่ใช้เพื่อค้นหารูปแบบต่าง ๆ ภายในกระบวนการขององค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยเฉพาะ

ในการทำเหมืองกระบวนการนั้น เป้าหมายคือการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจเพื่อสำรวจ เปรียบเทียบ หรือปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจบางอย่าง ในขณะที่การทำเหมืองข้อมูลนั้นเกี่ยวข้องกับวิเคราะห์ชุดข้อมูลที่กว้างกว่ามากเพื่อนำมาใช้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น การทำนายพฤติกรรมของลูกค้า ตรวจสอบการเลิกใช้บริการของลูกค้า การตรวจจับการฉ้อโกง และการค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ เกี่ยวกับลูกค้าของคุณ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง การทำเหมืองกระบวนการเป็นกระบวนการภายในที่ปรับปรุงธุรกิจจากข้างใน ในขณะที่การทำเหมืองข้อมูลเป็นคำทั่วไปที่กว้างกว่าที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์ชุดข้อมูลทั้งหมด แต่อาจรวมถึงการปรับปรุงโอกาสภายนอกธุรกิจ เช่น การปรับปรุงการขายหรือโอกาสในการขาย

ในทางกลับกัน การจัดการกระบวนการทางธุรกิจ (BPM) หมายถึงความพยายามของบริษัทคุณในการวิเคราะห์ เร่งกระบวนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการโดยอาศัยการทำงานของมนุษย์

ในการจัดการกระบวนการทางธุรกิจ กระบวนการเหล่านี้มักจะถูกบันทึกโดยมนุษย์ในระบบติดตามซอฟต์แวร์ผ่านการสัมภาษณ์ การทำเวิร์กช็อป และแบบสอบถามต่าง ๆ ข้อมูลจากการจัดการกระบวนการทางธุรกิจมักจะเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพมากกว่า เนื่องจากข้อมูลนั้นมาจากมนุษย์จริง ๆ แต่การทำเหมืองกระบวนการจะให้ข้อมูลเชิงปริมาณมากกว่าสำหรับข้อมูลชุดเดียวกันนั้น

กล่าวอีกนัยหนึ่ง การจัดการกระบวนการทางธุรกิจเป็นการดำเนินงานของมนุษย์เพื่อดูแลกระบวนการทางธุรกิจ ในขณะที่การทำเหมืองกระบวนการเผยให้เห็นว่ากระบวนการจริงนั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลปรนัย

อีกวิธีหนึ่งในการทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้คือ การจัดการกระบวนการทางธุรกิจเป็นสิ่งที่บริษัทต่าง ๆ เชื่อว่าพวกเขาควรจะเป็น ในขณะที่การทำเหมืองกระบวนการช่วยให้พวกเขาค้นพบว่าใครและอะไรที่พวกเขาเป็นจริง ๆ จากจุดที่อยู่จริง ๆ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการกระบวนการทางธุรกิจ โปรดอ่าน “การจัดการกระบวนการทางธุรกิจคืออะไร”

ชนิดของโมเดลการทำเหมืองกระบวนการ ทางธุรกิจ

การทำเหมืองกระบวนการมีสามรูปแบบหลัก ๆ ดังนี้ (1) การค้นพบ (2) ความสอดคล้องกัน และ (3) การเพิ่มประสิทธิภาพ

  1. การค้นพบ: ชนิดของการทำเหมืองกระบวนการที่พบมากที่สุดคือกระบวนการค้นพบ กระบวนการค้นพบคือ การใช้ข้อมูลบันทึกเหตุการณ์เพื่อสร้างโมเดลกระบวนการโดยไม่มีอิทธิพลภายนอกจากโมเดลกระบวนการที่มีอยู่ ด้วยกระบวนการค้นพบ ข้อมูลจากโมเดลกระบวนการที่มีอยู่จะไม่ส่งผลหรือมีอิทธิพลต่อการพัฒนาโมเดลกระบวนการใหม่
  2. ความสอดคล้องกัน: กระบวนการตรวจสอบความสอดคล้องกันนั้นจะตรวจสอบว่ามีการใช้โมเดลกระบวนการที่ต้องการในการปฏิบัติจริงหรือไม่ กระบวนการชนิดนี้จะประเมินคำอธิบายกระบวนการกับโมเดลกระบวนการที่มีอยู่ โดยอิงตามข้อมูลบันทึกเหตุการณ์ และพยายามระบุการเบี่ยงเบนใด ๆ จากโมเดลกระบวนการที่ต้องการ
  3. การเพิ่มประสิทธิภาพ: กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพ (หรือที่เรียกว่าการทำเหมืองระดับองค์กร การทำเหมืองประสิทธิภาพ หรือกระบวนการขยาย) เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงโมเดลกระบวนการที่มีอยู่โดยอิงจากข้อมูลจากกระบวนการตรวจสอบความสอดคล้องกัน ตัวอย่างเช่น กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพอาจใช้ข้อมูลจากกระบวนการตรวจสอบความสอดคล้องกันเพื่อแก้ไขจุดติดขัดหรือตัวแปรที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์

เหตุใดการทำเหมืองกระบวนการจึงมีความสําคัญ

การทำเหมืองกระบวนการมีประโยชน์มากมายต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่รากฐานในห้องโถงของสถาบันการศึกษาไปจนถึงส่วนที่ลึกมาก ๆ ของโลกธุรกิจ

ในทศวรรษที่ผ่านมาเพียงทศวรรษเดียว การทำเหมืองกระบวนการได้กลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีใหม่ที่ทรงคุณค่าและสำคัญที่สุด ซึ่งธุรกิจต่าง ๆ ไม่เพียงแต่ใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังใช้เพื่อการเติบโตในอีกสิบปีข้างหน้าอีกด้วย

เนื่องจากการทำเหมืองกระบวนการเป็นมากกว่าการเพิ่มยอดขาย สามารถช่วยธุรกิจต่าง ๆ ลดต้นทุนการดำเนินงานที่ส่งผลต่อผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) โดยรวมของพวกเขาด้วยการวัดผลเพื่อหาความไร้ประสิทธิภาพในโมเดลการดำเนินงาน ช่วยให้ผู้จัดการสามารถตัดสินใจตามวัตถุประสงค์โดยใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพื่อจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสมเพื่อเวิร์กโฟลว์ที่ดีขึ้น

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมว่าการทำเหมืองกระบวนการมีประโยชน์ต่อองค์กรของคุณอย่างไร โปรดดูที่ การแนะนำการใช้งาน เกี่ยวกับโปรแกรมช่วยแนะนำด้านกระบวนการของ Microsoft ในการสาธิตด้วยตนเองนี้

ประโยชน์ของการทำเหมืองกระบวนการ

การทำเหมืองกระบวนการมีประโยชน์หลายประการสำหรับทุกอุตสาหกรรม ประโยชน์บางข้อมีดังนี้:

  • ข้อมูลเชิงลึกที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง: การทำเหมืองกระบวนการให้ข้อมูลเชิงลึกที่อิงตามข้อเท็จจริงของข้อมูลจริง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้จัดการของคุณตรวจสอบ วิเคราะห์ และปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจที่มีอยู่
  • ถูกกว่า เร็วกว่า และแม่นยำกว่า: ต่างจากกระบวนการแบบแมนนวลที่มักพบในการจัดการกระบวนการทางธุรกิจ การทำเหมืองกระบวนการจะให้ข้อมูลที่แม่นยำกว่ามาก เร็วกว่า และถูกกว่ามาก เมื่อเทียบกับเวิร์กช็อปการแมปกระบวนการและกระบวนการอื่น ๆ ที่ต้องป้อนข้อมูลด้วยตนเอง
  • ทำงานร่วมกับระบบที่มีอยู่แล้วได้: การทำเหมืองกระบวนการสามารถทำงานร่วมกับระบบซอฟต์แวร์ที่คุณมีอยู่แล้วได้ เพื่อช่วยให้คุณขยายการลงทุนทางเทคโนโลยีที่มีอยู่โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนในเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ใหม่

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมว่าการทำเหมืองกระบวนการและกระบวนการทำงานอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ (RPA) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ความแม่นยำ ความเร็ว และการปฏิบัติตามข้อกำหนดได้อย่างไร โปรดอ่าน: “สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของ RPA”

การทำเหมืองกระบวนการทำงานอย่างไรกับการพัฒนาแบบ low-code

เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่พยายามผลักดันให้งานเสร็จเร็วขึ้น พวกเขาจึงเริ่มเปลี่ยนไปใช้ โมเดลการพัฒนาแบบ low-code ซึ่งพึ่งพาโครงการที่ใช้โค้ดจำนวนมากและทีมนักพัฒนาน้อยลง

การทำเหมืองกระบวนการเป็นกระบวนการที่สามารถช่วยกำหนดว่ากระบวนการทางธุรกิจใดบ้างที่จะทำงานได้ดีที่สุดภายใต้โมเดลการพัฒนาแบบ low-code

แต่ก่อนอื่น เราต้องรู้ก่อนว่าการพัฒนาแบบ low-code คืออะไร การพัฒนาแบบ low-code เป็นวิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์วิธีหนึ่งที่ใช้ความเชี่ยวชาญหรือความรู้ในการเขียนโค้ดน้อยที่สุด

พูดอีกอย่างก็คือ นักพัฒนาและผู้ที่ไม่ใช่นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการใช้โมดูลที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า เทมเพลตสำเร็จรูป ฟังก์ชันการลากและวาง และกระบวนการอัตโนมัติต่าง ๆ

ซึ่งช่วยให้แผนกต่าง ๆ ที่อาจจะมีทั้งนักพัฒนาและพนักงานที่ไม่ใช่นักพัฒนาสามารถสร้างเว็บไซต์ แอป และผลิตภัณฑ์ดิจิทัลอื่น ๆ ได้รวดเร็วอย่างน่าประทับใจ

เมื่อองค์กรต่าง ๆ หันมาใช้การทำเหมืองกระบวนการ พวกเขาจะสามารถกำหนดได้ว่ากระบวนการใดบ้างที่สามารถพัฒนาได้เร็วกว่าถ้าใช้โมเดลการพัฒนาแบบ low-code ก่อนที่จะปรับปรุงธุรกิจทั้งหมดด้วยโมเดลการพัฒนาแบบ low-code หรือเพื่อช่วยกำหนดว่ากระบวนการใดบ้างที่ควรให้นักพัฒนาดำเนินการด้วยกระบวนการที่ใช้โค้ดจำนวนมาก

กล่าวอีกนัยหนึ่ง การทำเหมืองกระบวนการช่วยให้กระบวนการทำงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่นในขณะที่เปลี่ยนไปสู่โมเดลการพัฒนาแบบ low-code โดยไม่ทำให้มีงานค้างโดยไม่จำเป็น

ข้อมูลที่ได้จากการทำเหมืองกระบวนการจะช่วยให้ผู้จัดการของคุณมีแผนงานที่ชัดเจนและถูกต้องเกี่ยวกับวิธีการออกแบบกระบวนการเวิร์กโฟลว์ใหม่ทั้งหมด เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่โมเดลการพัฒนาแบบ low-code ที่ราบรื่นและไม่สะดุด

หากต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนา low-code โปรดอ่าน: “แพลตฟอร์มการพัฒนาแบบ low-code คืออะไร”

ซอฟต์แวร์การทำเหมืองกระบวนการช่วยปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ได้อย่างไร: ตัวอย่างและกรณีการใช้งาน

สามารถใช้เครื่องมือและเทคนิคต่าง ๆ ของการทำเหมืองกระบวนการเพื่อปรับปรุงเวิร์กโฟลว์กระบวนการสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ในวงกว้าง

เนื่องจากการทำเหมืองกระบวนการนั้นจะประเมินและเน้นให้เห็นว่ามีอะไรบ้างที่ไร้ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน หลาย ๆ อุตสาหกรรมจึงเริ่มใช้เครื่องมือการทำเหมืองกระบวนการ เพื่อค้นหาวิธีที่จะสามารถปรับปรุงทุกกระบวนการในองค์กรของตน

กรณีการใช้งานต่าง ๆ ในระดับอุตสาหกรรม ได้แก่:

  • ภาคการผลิต: การทำเหมืองกระบวนการสามารถช่วยให้ผู้จัดการในอุตสาหกรรมการผลิตได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเวลาในการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งโดยเฉพาะ และจัดสรรทรัพยากรใหม่ ๆ เช่น พื้นที่จัดเก็บ เครื่องจักร หรือคนงาน ตามความจำเป็นเพื่อปรับปรุงการผลิตและตอบสนองความต้องการ
  • ตัวอย่างเช่น: Coca-Cola Bottling Company United ประสบปัญหาในการสั่งซื้อเครื่องจำหน่ายเครื่องดื่มฟรีสไตล์ยอดนิยม พวกเขาใช้กระบวนการทำงานอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ (RPA) กับ Microsoft Power Automate เพื่อช่วยให้การปฏิบัติตามคำสั่งซื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเร็วขึ้นโดยไม่ต้องจ้างพนักงานประจำเพิ่ม
  • ภาคการศึกษา: การทำเหมืองกระบวนการสามารถตรวจสอบและประเมินประสิทธิภาพและพฤติกรรมของนักเรียนได้ เช่น นักเรียนแต่ละคนใช้เวลาดูเอกสารประกอบการเรียนนานแค่ไหน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้ครูและผู้บริหารทราบได้ว่ากระบวนการใดดีที่สุดสำหรับแต่ละหลักสูตร
  • ภาคสาธารณสุข: การทำเหมืองกระบวนการช่วยลดระยะเวลาของกระบวนการรักษาผู้ป่วยแต่ละราย และยังช่วยให้คำแนะนำเพื่อการฟื้นตัวที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • การทำงานสาธารณะ: การทำเหมืองกระบวนการสามารถปรับปรุงกระบวนการออกใบแจ้งหนี้สำหรับผู้เกี่ยวข้องในโครงการการทำงานสาธารณะสำหรับบริษัทในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจทำความสะอาด สำนักงานสิ่งแวดล้อม ไอที และการสื่อสาร
  • ตัวอย่างเช่น: Vodafone ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำในยุโรปและแอฟริกา ได้ปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจโดยทำให้พนักงานทุกคนสามารถเข้าถึง Microsoft Power Platform ได้ โดยได้มีการจัดหาโซลูชันมากกว่า 1,000 รายการ เพื่อให้การทำงานประจำวันของพวกเขาเป็นไปโดยอัตโนมัติ
  • การเงิน: การทำเหมืองกระบวนการสามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการระหว่างองค์กรสำหรับสถาบันการเงินwfh เช่น การตรวจสอบบัญชี การเพิ่มรายได้ และการขยายฐานลูกค้า
  • For example: Illimity, Italy’s first cloud-native bank, used process mining and other robotic process automations (RPA) to improve its loan application and approvals processes for its applicants.
  • อีคอมเมิร์ซ: การทำเหมืองกระบวนการสามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ซื้อออนไลน์และแนะนำกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่ม ROI และยอดขายสูงสุดสำหรับผู้ค้าปลีกในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซหรือเพิ่มประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ประเภทใดก็ได้
  • การพัฒนาซอฟต์แวร์: การทำเหมืองกระบวนการสามารถช่วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์และผู้ดูแลระบบไอทีจัดระเบียบกระบวนการพัฒนาของตนใหม่ได้ เพื่อสร้างแผนงานที่เห็นภาพชัดเจนและมีเอกสารประกอบ เพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถตรวจสอบกระบวนการของตนเพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาดำเนินไปตามที่คาดไว้

การเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลด้วย Process Mining

เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกจำเป็นต้องก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เกิดขึ้นทุกปี หลาย ๆ องค์กรจึงจำเป็นต้องตรวจสอบกระบวนการทางธุรกิจของตนอย่างเข้มงวดตั้งแต่ระดับบนลงล่าง

ด้วยการทำเหมืองกระบวนการ องค์กรจะสามารถปรับปรุงทุกแง่มุมของกระบวนการทางธุรกิจของตนได้ และรับรู้ข้อมูลเชิงลึกว่าจริง ๆ แล้วการดำเนินกิจการของพวกเขาเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเขาคิด ด้วยแผนงานที่จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนซึ่งจัดทำโดยเครื่องมือการทำเหมืองกระบวนการ

การทำเหมืองกระบวนการเป็นกระบวนการแบบต่อเนื่องที่สามารถช่วยให้องค์กรของคุณมีแผนผังของกระบวนการอัตโนมัติ กระบวนการค้นพบ และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อปรับปรุงทุกกระบวนการในธุรกิจของคุณ เพื่อให้องค์กรดำเนินกิจการและผลิตสินค้าได้ตามผลลัพธ์ที่ตั้งใจไว้

เมื่อทุกกระบวนการในองค์กรของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเวลา จะทำให้องค์กรของคุณสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพโดยไม่เป็นอุปสรรคต่อการผลิตหรือลดทอนผลตอบแทนจากการลงทุน นอกจากนี้ยังเหลือที่ว่างให้องค์กรของคุณได้สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าอีกด้วย

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือการทำเหมืองกระบวนการและกระบวนการทำงานอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ (RPA) โปรดดูที่ ทำไมธุรกิจต่าง ๆ ถึงเลือกใช้เครื่องมือ RPA และสำรวจด้วยตัวคุณเองว่า Microsoft Power Automate สามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจของคุณได้อย่างไร

คำถามที่พบบ่อย

การทำเหมืองกระบวนการคืออะไร

การทำเหมืองกระบวนการเป็นเทคนิคที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจหา ตรวจสอบ และปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ โดยการแยกความรู้ที่พร้อมใช้งานออกจากระบบข้อมูล ถือว่าเป็นกระบวนการที่แยกข้อมูลออกจากบันทึกเหตุการณ์และบันทึกการตรวจสอบบัญชีภายในระบบข้อมูลทั้งหมดในองค์กรของคุณ เพื่อเผยให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างภายในธุรกิจของคุณ การทำเหมืองกระบวนการสร้างแผนผังภาพที่ชัดเจนซึ่งเผยให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เช่น จุดติดขัด ตัวแปรที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ความคลาดเคลื่อนจากการออกแบบที่ตั้งใจไว้ การทำงานซ้ำ

ประเภทของการทำเหมืองกระบวนการมีอะไรบ้าง

การทำเหมืองกระบวนการมีสามรูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ (1) การค้นพบ (2) ความสอดคล้องกัน และ (3) การเพิ่มประสิทธิภาพ กระบวนการค้นพบจะสำรวจวิธีการใหม่ ๆ ในการสร้างกระบวนการโดยปราศจากอิทธิพลภายนอกของโมเดลกระบวนการที่มีอยู่แล้ว กระบวนการตรวจสอบความสอดคล้องกันจะทดสอบเพื่อดูว่ากระบวนการนั้นทำงานตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ และกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพจะปรับปรุงกระบวนการที่มีอยู่แล้วซึ่งกระบวนการตรวจสอบความสอดคล้องกันระบุว่ามีปัญหา

ทำไมถึงต้องใช้การทำเหมืองกระบวนการ

การทำเหมืองกระบวนการช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ค้นพบความไร้ประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ส่งผลต่อการผลิตโดยรวม เช่น จุดติดขัด ตัวแปรที่ไม่ก่อประโยชน์ การคลาดเคลื่อนจากการออกแบบที่ตั้งใจไว้ และการทำงานซ้ำ การค้นพบความไร้ประสิทธิภาพเหล่านี้มักช่วยให้ธุรกิจจัดระเบียบกระบวนการทำงานใหม่ได้ เพื่อให้มีการจัดสรรทรัพยากรที่ถูกต้องสำหรับเวิร์กโฟลว์ที่ดีขึ้นตามข้อมูลที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง

การทำเหมืองกระบวนการสามารถมีบทบาทอะไรได้บ้างบนเส้นทางของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง

การทำเหมืองกระบวนการช่วยให้องค์กรต่าง ๆ กำหนดได้ว่ากระบวนการใดบ้างที่เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ต่อเวิร์กโฟลว์โดยรวม ด้วยแผนผังภาพที่ชัดเจนซึ่งอิงตามข้อมูลที่รวบรวมด้จากรายการบันทึกเหตุการณ์และบันทึกการตรวจสอบบัญชีในทุกระบบข้อมูลขององค์กร ผู้จัดการจะสามารถใช้ข้อมูลเพื่อจัดสรรทรัพยากรใหม่ที่จำเป็นในการปรับปรุงเวิร์กโฟลว์และการผลิตได้

การทำเหมืองกระบวนการและระบบอัตโนมัติแบบ low-code เสริมการทำงานซึ่งกันและกันอย่างไร

การทำเหมืองกระบวนการสามารถช่วยให้องค์กรจัดลำดับความสำคัญของงานที่สามารถเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการพัฒนาแบบ low-code ได้โดยไม่ทำให้มีงานค้าง นอกจากนี้ยังสามารถช่วยธุรกิจในการจัดระเบียบว่ากระบวนการใดที่สามารถทำได้ในการตั้งค่าการพัฒนาแบบ low-code และขั้นตอนใดที่ควรทำร่วมกับนักพัฒนา